กะโหลกแก้ว (CRYSTAL SKULLS : SOUTHERN MEXICO)

ปริศนาจากชาวมายา กุญแจที่จะไขทุกคำตอบในโลกของเรา กะโหลกแก้วคริสตัลลึกลับ 5 ใน 13 ทั้งหมดที่ถูกค้นพบ ถูกปลุกฟื้นตำนานเรื่องเล่า.

โอเรกอน วอร์เท็กซ์ (OREGON VORTEX : GOLD HILL, OREGON)

พบกับสถานที่ที่ไม่ลึกลับแต่มันเป็นภาพลวงตาที่หาคำตอบไม่ได้ โอเรกอน วอร์เท็กซ์ เป็นสนามพลังงานแม่เหล็ก ตั้งอยู่ใน หุบเขาทองคำ (gold hill) โอเรกอน ประเทศอเมริกา โดยสถานที่ตั้งแห่งนี้ ปรากฎการณ์แปลกๆ ที่น่าสนใจ.

ภาพลายเส้นนาซคา (NAZCA LINES : NAZCA, PERU)

สิ่งหนึ่งที่เรามักทำกันเวลาไปนั่งเล่นริมชายทะเลคือเอาไม้วาดรูปเรื่อย เปื่อยไปบนผืนทราย เมื่อน้ำขึ้นจนท่วมรูปก็จะพัดพาเอาทรายกลับลงทะเลไปกลายเป็นชายหาดอัน เกลี้ยงเกลาอีกครั้ง กลางผืนทะเลทรายใกล้ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกในประเทศเปรู .

ความลี้ลับของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา

สามเหลี่ยมเบอร์มิวดาเป็นอาณาบริเวณส่วนหนึ่งของมหาสมุทรแอ็ตแลนติคภาคตะวัน ตก พื้นที่ทั้งหมดเริ่มจาก ตอนเหนือของเบอร์มิวดาไปถึงตอนใต้ของรัฐฟลอริดา-และจากฟลอริดามุ่งตรงไปทาง ตะวันออกทำมุมสี่สิบองศากับเส้นรุ้ง ผ่านบาฮามัสและเปอร์โตริโก จากนั้นก็ย้อน.

สัตว์ประหลาดแห่งล็อกเนส (THE LOCH NESS MONSTER : INVERNESS, SCOTLAND)

บน โลกนี้มีเรื่องให้พิสูจน์อีกมาก อย่างที่เรากำลังจะพาไปเยี่ยมเยือนสัตว์ประหลาด แห่งทะเลสาบล็อกเนส ในสก็อตแลนด์ เรื่องเล่าที่โด่งดังเกี่ยวกับสัตว์รูปร่างประหลาด เนสซี่ ตัวใหญ่ ประมาณ 15 – 40 ฟุต มักโผล่ขึ้นมาให้เห็นเป็นครั้งคราว.

วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2557

Angel Hair

“เส้น ผมนางฟ้า” เป็นปรากฏการณ์ที่หายากและไม่สามารถอธิบายได้ มันมีลักษณะเป็นเส้นคล้ายเส้นไหมและตกลงมาจากท้องฟ้า แต่ถ้าเอื้อมมือไปสัมผัสละก็ มันจะอันตรธานหายไปต่อหน้าต่อตา เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกแต่จะพบบ่อยในแถบอเมริกาเหนือ, นิวซีแลนด์, ออสเตรเลีย, และยุโรปตะวันตก ไม่มีหลักฐานยืนยันแน่นอนว่าเกิดจากอะไร หรือแม้กระทั่งมันทำมาจากอะไร เป็นที่คาดการณ์ว่ามันอาจจะมาจากแมงมุม หรือจากแมลงชักใยชนิดอื่นๆ หรือแม้กระทั่งยูเอฟโอ เนื่องจากมันมักจะเกี่ยวข้องกับการพบเห็นยูเอฟโอ เนื่องจากความบอบบางของมัน จึงเป็นเรื่องยากที่จะเก็บตัวอย่างและวิเคราะห์ เพราะว่ามันมักจะได้รับการปนเปื้อนจากไอเสียรถยนต์และการสัมผัสของมนุษย์ ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงผลทางเคมีได้

Bélmez Faces

เป็น ปรากฏการณ์ประหลาดโดยมีปรากฏใบหน้าของคนที่ปรากฏอย่างชัดเจนในบ้าน Bélmez de la Moraleda  บ้านส่วนตัวแห่งหนึ่งที่ตั้งในถนนหมายเลข 5  , เจยัน, ในประเทศสเปน โดยเริ่มต้นใน 23 สิงหาคม ปี 1971 เมื่อ María Gómez Cámara อ้างว่ามีการพบหน้ามนุษย์ประหลาดเกิดขึ้นโดยธรรมชาติในชั้นครัวของเธอที่ ผนังซีเมนต์สามีและลูกของเธอจึงทำลายใบหน้านั้นด้วยขวานและฉาบปูนซีเมนต์ ใหม่ แต่ปรากฏว่าใบหน้าใหม่ก็เกิดขึ้นอีก โดยส่วนใหญ่มักปรากฏบนคอนกรีตของบ้านอย่างต่อเนื่องและบางครั้งก็หายไปเมื่อ เวลาผ่านไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง อีกทั้งใบหน้าเหล่านี้จะปรากฏตัวเป็นระยะไม่สม่ำเสมอ หน้าแต่ละหน้าจะไม่เหมือนกัน รูปร่างแตกต่างกัน มีทั้งชายและหญิง และการแสดงออกต่างกันออกไป
 ปัจจุบัน บ้านหลังนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่ยอดนิยมในการถ่ายรูปและหลายสื่อไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ท้อง ถิ่น,ประชาชน, นักท่องเที่ยวที่ต่างเข้ามาแวะเวียนกันเพื่อดูปรากฏการณ์ที่ว่านี้ หลายคนเชื่อว่าใบหน้าเหล่านี้ไม่ใช้ฝีมือของมนุษย์ และเชื่อว่าเป็นปรากฏการณ์ Thoughtographic (ความสามารถในการใช้พลังจิตฉายภาพลงบนกระดาษหรือรูปถ่าย) ที่เกิดจากพลังจิตของเจ้าของบ้านโดยไม่รู้ตัว
แต่ นักวิทยาศาสตร์ยังกังขาปรากฏการณ์นี้ อาจเป็นการปรากฏการณ์ลึกลับหลอกๆ ซึ่งพวกเขาสันนิษฐานว่าเกิดจากการล้างปูนซีเมนต์ และมีวิเคราะห์มวล,โมเลกุล ตัวอย่างซีเมนต์ในบ้านหลังนั้นและพบว่ามันเป็นเรื่องหลอกลวง แต่กระนั้นในเวลาต่อมาหลายคนไม่เชื่อ และนักวิทยาศาสตร์บางคนโดนฟ้องอีกต่างหาก ทำให้การไขปริศนาปรากฏการณ์นี้กลายเป็นเรื่องต้องห้าม เนื่องจากมันได้สร้างรายได้และกำไรเป็นกอบเป็นกำในเมืองแห่งนี้

Simulacrum in Eagle Nebula(Simulacrum)

ปรากฏการณ์ ดังกล่าวถูกเรียกว่า “เทวทูตแห่งอากาศ”  คือปรากฏการณ์ที่มนุษย์มองเห็นภาพบุคคล สัญลักษณ์ทางศาสนาจากเมฆ หรือ แล้วแต่จะจินตนาการตีความ  ส่วนภาพด้านบนเป็นภาพที่ถูกถ่ายเมื่อปี 1995 กล้องฮับเบิลจับภาพ Eagle Nebula (Nebula คือกลุ่มเมฆหมอกของฝุ่น แก๊ส และพลาสมาในอวกาศที่เป็นต้นกำเนิดของดวงดาว) และแพร่ภาพออกอากาศทางสถานี CNNประชาชนจำนวนมากที่เห็นภาพดังกล่าว ต่างโทรศัพท์มาบอกทางสถานีว่า พวกเขาเห็นภาพของมนุษย์ เทพเจ้า พระเยซูฯลฯ และนักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถอธิบายปรากฏการณ์นี้ได้

The taos hum

“เสียง ฮัมลึกลับ” เป็นเสียงต่ำแปลกๆ ที่เกิดขึ้นเฉพาะในสหรัฐอเมริกา(ในปี ค.ศ.1977), อังกฤษ และยุโรปเหนือ ที่มักได้ยินเสียงฮัมต่ำๆ คล้ายๆ เครื่องยนต์ดีเซลแปลกๆ(เช่นเครื่องใช้ในครัวเรือน,เสียงจราจรเป็นต้น) โดยเจ้าเสียงที่ว่านี้ดังติดต่อกันตลอดเวลาแต่บางทีก็เว้นจังหวะเป็นระยะแบบ สม่ำเสมอกันและเสียงนี้จะเข้มข้นตอนกลางคืนทำให้ผู้ได้ยินเป็นประสาทตามๆ กัน โดยเสียงที่ว่านี้จะต้องตั้งใจฟังในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบเท่านั้น เช่นทะเลทรายในนิวเม็กซิโก, เกาะฮาวาย โดยไม่มีใครรู้ว่าต้นเสียงมาจากไหน.
ใน ปี 1977 มีการตรวจสอบโดยตรงจากวิทยาศาสตร์จากสถาบันที่มีชื่อเสียงในประเทศอเมริกา โดยทำการสำรวจและวัดคลื่นความถี่ของเสียงปริศนาในท้องที่และรอบๆ เมือง Taos นิวเม็กซิโก(โดยปกติเสียงนี้พบยากต้องใช้ไมโครเฟนพิเศษช่วย) พบว่าเสียงฮัมเบาๆ นี้มีความถี่ของเสียงประมาณ 30-80 Hz แต่เหลือเชื่อตรงที่ใช่ทุกคนจะได้ยิน มีบางคนที่ได้ยินเสียงนี่เท่านั้น โดยจากสถิตพบคนในเมือง Taos ได้ยินเสียงนี้เพียง 2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น  ก็ส่วนสาเหตุไม่พบว่าเสียงปริศนานี้เกิดจากอะไร บ้างก็สันนิษฐานว่า เป็นหูอื้อ, เสียงลม, คลื่นมหาสมุทร ไม่ก็ยูเอฟโอ ฯลฯ

Disappearing Lake

Disappearing Lake
ในเดือนพฤษภาคม 2007 ทะเลสาบภูเขาน้ำแข็ง เขต “มากายาเนส” ในปาตาโกเนีย ทางใต้ตอนใต้ของเทือกเขาแอนดีส ประเทศชิลี เกิดอันตรธานหายไปอย่างลึกลับ  อย่างน่าพิศวงทั้งๆ ที่ ขนาดทะเลสาปมีถึง 5 เอเคอร์  หรือในราวๆ สนามฟุตบอล 10 สนาม โดยเจ้าหน้าที่อุทยานอธิบายว่าพวกเขาเห็นทะเลสาปยังเป็นปกติอยู่ในช่วงสอง เดือนที่ผ่านมา และจู่ๆ มันก็หายไปพริบตา กลายเป็นแอ่งขรุขระขนาดใหญ่ น้ำเหือดแห้งไปหมด มีเพียงก้อนน้ำแข็งจำนวนมากนอนก้นอยู่ จากเดิมที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ ปริศนานี้ทำให้นักธรณีวิทยางงงวยและอยากทราบคำตอบมากว่าเกิดอะไรขึ้น โดยผู้เชี่ยวชาญหลายคน ตั้งทฤษฎีหลายทฤษฏีว่าแผ่นดินแยกตัว และกลืนน้ำในทะเลสาบลงไปแต่กระนั้นจากการตรวจสอบไม่มีรายงานว่ามีเหตุการณ์ แผ่นดินไหวเกิดขึ้นในพื้นที่นี้แต่อย่างใด  

Raining Blobs

ชาวเมือง Oakville กรุง วอชิงตัน ต้องประหลาดใจ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 1994 เกิดฝนตกห่าใหญ่ แต่แทนที่จะเป็นฝนธรรมดา ชาวเมืองกลับเห็นลักษณะหยดน้ำฝนแตกต่างกันออกไปทุกครั้ง มันมีลักษณะเหมือนวุ้นเหมือนกาวนับไม่ถ้วนกำลังตกลงมาจากฟากฟ้า หลังจากนั้นเกือบทุกคนในเมืองมีอาการป่วยเหมือนไข้หวัดขึ้นมาอย่างไม่ทราบ สาเหตุและเป็นนานถึง 7 วัน ถึง 3 เดือน หลังจากสัมผัสและกินฝนวุ้นกาวนี้เข้าไป จึงมีการเอาตัวอย่างหยดน้ำฝนเพื่อตรวจสอบ ก็พบเรื่องตะลึงเพราะในหยดน้ำฝนมีเซลล์เม็ดเลือดขาวของมนุษย์ กรมอนามัยของวอชิงตันวิเคราะห์เพิ่มเติมว่าสาเหตุที่ฝนตกมาเป็นกาววุ้นนั้น มีแบคทีเรียอย่างหนึ่งที่พบในระบบย่อยอาหารของมนุษย์ด้วย แต่จนบัดนี้ยังไม่มีผู้ใดสามารถอธิบายการเกิดฝนลักษณะนี้ได้เลยว่ามันเกิด จากอะไรกันแน่??

The Monkey Man of Delhi




ใน เดือนพฤษภาคม ปี 2001 มีรายงานประหลาดที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงอินเดียที่เมืองเดลี จู่ๆ ก็มีลิงที่รูปร่างประหลาดจู่โจมคนในกลางดึก ลิงรูปร่างประหลาดนี้มีลักษณะ รูปลักษณะที่แตกต่างกันออกไป แทบไม่เหมือนกันเลยสักคน บ้างมาเป็นฝูงมีทั้งของแท้ของเทียม บางคนเห็นมันแต่งชุดขาวๆ พันผ้าพันแผลเหมือนมัมมี่ อีกคนบอกว่ามันแต่งชุดดำ คนโน้นบอกว่ามันทาลำตัวด้วยสีน้ำเงิน คนโน้นก็บอกว่ามีขนรุงรังสีน้ำตาล ส่วนศีรษะนั้น บางคนบอกว่าเหมือนลิง บางก็ว่าสวมเกราะอีกที่หนึ่ง คนหนึ่งบอกว่ามันมีดวงไฟสีฟ้ากับสีแดงวูบๆ วาบๆ และดวงตามีสีแดงบ้าง สีเขียวบ้าง แต่ที่ตรงกันทุกรายคือมันมีกรงเล็บเป็นโลหะสีแวววาว บางรายสรุปน่าจะเป็นมนุษย์ต่างดาวหรือหุ่นยนต์บังคับ ส่วนความสูงมันก็ก็มีหลายแบบ มีตั้งแต่ 137 ซ.ม. ไปจนถึง 183 ซ.ม. (สงสัย จะเป็นพ่อลูกมั้ง) ทั้งยังกระโดดสูงได้ เหาะได้ หายตัวได้ด้วย และพวกมันหยุดอาละวาดลงเมื่อมีเหตุฆ่ากันตายและมันก็ไม่กลับมาอีกเลย มีผู้รู้หลายคนออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับลิงดาลีนี้ว่าน่าจะเป็นปรากฏการณ์ ภาพลวงตาหมู่ (MASS DELUSION)บ้างก็ว่าเป็นคนบ้าที่ หาทางออกจากความเก็บกดด้วยการแสดงอำนาจเหนือผู้อื่นส่วนนายแพทย์คนหนึ่งก็ พยายามอธิบายว่าอาจเกิดขึ้นเพราะความตื่นตระหนกตื่นตูมโดยไม่พิจารณาให้ถ่อง แท้ก่อนและอาจเป็นต้นเหตุข่าวลือผิดๆ ถูกๆ นี้ได้เช่นถ้าเราโยนถุงมือลงหน้าต่างแล้วร้องออกมาว่ามือลิงๆ ผลคือชาวบ้านตกใจกันโดยทั่วนอกจากนี้ยังมีอีกกระแสว่ามนุษย์ลิงเป็นเรื่องกุ ขึ้นโดยฝีมือสปายฝ่ายปากีสถานที่ต้องการทำลายความมั่งคงและความน่าเชื่อถือ ของรัฐบาลอินเดียหรือบางข่าวบอกว่าเป็นฝีมือของแก๊งกวนเมืองที่ลองฝีมือของ ตำรวจเดลีหรือไม่ก็เป็นสายลับปากีสถานที่พยายามก่อกวนอินเดีย ฯลฯ จนบัดนี้ก็ไม่ได้คำตอบแต่อย่างใดเลย??